วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่น

1. Kawachi Fuji Garden : ฟุกุโอกะ
    ฟูกุโอกะ (福岡, Fukuoka) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด และใหญ่เป็นอันดับ 8 ของประเทศญี่ปุ่นด้วย ฟูกุโอกะเป็นเมืองท่าที่สำคัญของญี่ปุ่นมานานหลายร้อยปี เพราะว่าตั้งอยู่ใกล้กับเขตแผ่นดินใหญ่ที่สุด (อยู่ใกล้กับเมืองโซลของเกาหลีมากกว่าเกียวโตซะอีก) จึงถูกเลือกเป็นจุดยกพลขึ้นบกของชาวมองโกลที่ต้องการจะมายึดญี่ปุ่นเมื่อประมาณช่วงปี 1300 ด้วย
       ของขึ้นชื่อใน ฟูกุโอกะ(Fukuoka) 


      ฮากาตะยะไต กินอะไรดี – Hakata Yatai       ในเมืองฮากาตะมีย่านยะไตอยู่สามแห่ง ได้แก่ เขตเทนจิน เขตนากาฮาม่าและเขตนากาสุมักจะเปิดขายตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนถึงประมาณตี1 คนญี่ปุ่นหลายคนเข้าใจว่าคนที่ไปกินดื่มที่ร้านยะไตมีแต่ผู้สูงอายุหรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการบรรยากาศสมัยโชวะเท่านั้นแต่จริงๆแล้วยะไตเป็นที่นิยมของกลุ่มลูกค้าหลากหลาย ทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง ไปจนถึงกลุ่มพนักงานบริษัท ในจังหวัดอื่นยะไตมักจะเป็นรถเข็นขายอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยะไตของฮากาตะขายอาหารหลากหลาย โดยในหนึ่งร้านมักจะมีทั้งราเมนเทมปุระ อาหารเสียบไม้ย่าง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บางร้านก็มีวัตถุดิบให้ลูกค้าเลือกถึงกว่าสามสิบชนิดทั้งที่มีราคาถูกไปจนถึงวัตถุดิบหรูหราราคาแพง และบางร้านก็มีเมนูเฉพาะที่มีเฉพาะฮากาตะยะไตอีกด้วย เช่น ราเมงผัดแห้ง ทำจากเส้นราเมงเส้นเล็กผัดกับน้ำซุปกระดูกหมูและซอสสูตรพิเศษ หรือ ลูกชิ้นปลาไส้เกี๊ยวซ่าต้มในน้ำซุปโอเด้ง
      ตลาดของกิน







       ปราสาทคินคาคุจิ (Kinkaku) หรือปราสาททองนี้เดิมเป็นสถานตากอากาศของโชกุนโยชิมิสึ (Yoshimitsu)แห่งตระกูลอาชิคางะจากภาพยนตร์เรื่องเณรน้อยเจ้าปัญญาอิคคิวซังนั่นเองค่ะเป็นสีทองจากทองคำเปลวอีกจุดเด่นของปราสาทแห่งนี้ก็คือรูปหล่อนกฟีนิกซ์บนยอดปราสาทโดยรอบปราสาทมีลำธารน้ำใสสะอาดทำให้เกิดภาพสะท้อนผิวน้ำแสนสวยราวภาพวาด




ที่เที่ยวถ่ายรุปสวยงานราวภาพวาด














โลก

        โลก (The Earth) เป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวในระบบสุริยะที่มีสภาวะแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต โลกอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่ 3 และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 โลกมีสัณฐานเป็นทรงกลมแป้นมีรัศมีเฉลี่ย 6,371 กิโลเมตร ครงสร้างภายในของโลกประกอบไปด้วยแก่นชั้นในที่เป็นเหล็ก มีรัศมีประมาณ 1,200 กิโลเมตร ห่อหุ้มด้วยแก่นชั้นนอกที่เป็นของเหลว (Liquid) ประกอบด้วยเหล็กและนิเกิล มีความหนาประมาณ 2,200 กิโลเมตร ถัดขึ้นมาเป็นชั้นแมนเทิลซึ่งเป็นของแข็งเนื้ออ่อนที่ยืดหยุ่นได้ (Plastic) ประกอบไปด้วย เหล็ก แมกนีเซียม ซิลิกอน และธาตุอื่นๆ มีความหนาประมาณ 3,000 กิโลเมตร เปลือกโลกเป็นของแข็ง (Solid) มีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นเฟลด์สปาร์ และควอตช์ (ซิลิกอนไดออกไซด์) 

        บรรยากาศของโลกประกอบด้วยไนโตรเจน 77 % ออกซิเจน 21% ที่เหลือเป็นอาร์กอน คาร์บอนไดออกไซด์ และน้ำ  คาร์บอนไดออกไซด์ช่วยในการกักเก็บความร้อนไว้ภายใต้ชั้นบรรยากาศโดยอาศัยภาวะเรือนกระจก ทำให้โลกมีความอบอุ่น ไม่หนาวเย็นจนเกินไปสำหรับสิ่งมีชีวิต อย่างไรก็ตามถ้าปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นมากขึ้นก็จะทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน ซึ่งอาจส่งผลให้สิ่งมีชีวิตไม่สามารถดำรงอยู่ได้ 
        นอกจากนี้โลกยังมีสนามแม่เหล็กซึ่งเกิดจากการเคลื่อนที่ของแก่นชั้นนอกซึ่งเป็นเหล็กเหลว ถึงแม้ว่าสนามแม่เหล็กโลกจะมีความเข้มไม่มาก  แต่ก็ช่วยปกป้องไม่ให้อนุภาคที่มีพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์ (Solar wind) เดินทางผ่านมาที่ผิวโลกได้ โดยสนามแม่เหล็กจะกักให้อนุภาคเดินทางไปตามเส้นแรงแม่เหล็ก และเข้าสู่ชั้นบรรยากาศได้เพียงที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้เท่านั้น  เมื่ออนุภาคพลังงานสูงปะทะกับโมเลกุลของแก๊สในชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดแสงสีสวยงาม สังเกตเห็นบนท้องฟ้ายามค่ำคืน เรียกว่า "แสงเหนือแสงใต้" (Aurora)